Shiri เป็นภาพยนตร์แนวแอ๊คชั่นจารชนของเกาหลีใต้ ออกฉายในปี ค.ศ. 1999 โดยตั้งชื่อมาจากชื่อปลาน้ำจืดขนาดเล็กชนิดหนึ่ง (Coreoleuciscus splendidus) ที่อยู่ในวงศ์ปลาตะเพียน ที่อาศัยเฉพาะตามแหล่งน้ำสะอาดของคาบสมุทรเกาหลี[1][2] ซึ่งเป็นชื่อที่ถูกนำมาใช้เป็นรหัสลับที่ใช้โดยหน่วยสืบราชการลับ ของกองกำลังพิเศษที่ 8 ของเกาหลีเหนือ

เมื่อออกฉายแล้ว Shiri ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ได้รับรางวัลต่าง ๆ มากมาย ทั้งในประเทศและระดับนานาชาติ อาทิ รางวัลตัดต่อยอดเยี่ยม (เทศกาลภาพยนตร์เอเชีย-แปซิฟิค), รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (สมาคมวิจารณ์ภาพยนตร์ของเกาหลี) และ 6 รางวัลเกียรติยศจาก Golden Bell Awards (เสมือนรางวัลออสการ์ของเกาหลี) เป็นต้น

และทำให้ กัง เจกิว ผู้กำกับและผู้เขียนบทได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้กำกับภาพยนตร์แอ๊คชั่นในระดับชั้นนำของเอเชียที่เทียบเท่ากับ จอห์น วู หรือ ฉีเคอะ ผู้กำกับชาวฮ่องกงที่มีชื่อเสียงระดับโลก[3] (ซึ่งต่อมา กัง เจกิว ก็ได้กำกับภาพยนตร์เรื่องต่อมาซึ่งก็ทำรายได้และคำวิจารณ์เป็นจำนวนมากอีกเรื่อง คือ Taegukgi ในปี ค.ศ. 2004)

โดยภาพยนตร์ได้รับการวิจารณ์ว่า สร้างออกมาได้อย่างตื่นเต้นเร้าใจ จนสามารถเทียบได้กับ The Fujitive ในปี ค.ศ. 1993 ซึ่งเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดที่เข้าชิงรางวัลออสการ์หลายรางวัลได้ (รวมทั้งรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่หาได้ไม่ง่ายนักในรางวัลประเภทนี้) แต่ก็มีข้อตำหนิอยู่ คือ การที่มีโฆษณาแฝงในเรื่องมากเกินไป (ซัมซุง ผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของเกาหลีใต้เป็นผู้สนับสนุนภาพยนตร์เรื่องนี้)

ในส่วนของรายได้นั้น Shiri สามารถทำเงินได้ถล่มทลาย และสร้างประวัติการณ์ต่าง ๆ ไว้มากมาย จนกล่าวได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่เปิดศักราชยุคใหม่ให้แก่ภาพยนตร์เกาหลีอย่างแท้จริง เช่น มีผู้เข้าชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในโรงประมาณ 6 ล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ของเกาหลี ทำลายสถิติภาพยนตร์เรื่อง Titanic ซึ่งเป็นภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ของฮอลลีวู้ดและของโลก (โดยมีผู้ชม 4.5 ล้านคนในเกาหลีใต้), เป็นภาพยนตร์เกาหลีเรื่องแรก ที่เปิดตัวในอันดับ 1 เมื่อเข้าฉายในฮ่องกงและญี่ปุ่น, มีผู้ชมถึง 1 ล้านคนภายในช่วงระยะเวลาที่สั้นที่สุด (ภายใน 10 วันนับจากวันเปิดฉาย), เป็นภาพยนตร์ของเกาหลีที่ถูกซื้อไปฉายในต่างประเทศมากที่สุด และเป็นที่ดึงดูดความสนใจของสื่อมวลชนต่างประเทศอย่างมาก [4] และเป็นหนึ่งในคลื่นเกาหลีอย่างแรก ๆ ที่ได้เผยแพร่ในระดับสากล เป็นผลให้นานาชาติรู้จักกับความเป็นเกาหลีมากขึ้น[5]